[ MDZS ] LanHua 1/? #ZhuiLing






:: คำเตือน ::
แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด Alternate Universe (AU โลกปัจจุบัน) 
และอาจเกิดการ out of character ขึ้นในบางช่วง 
ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

P.S. ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ ;-;


LanHua

ZhuiLing

1/?




            เด็กหนุ่มเบิกตาโพล่ง ผมม้าทรงคอมม่าชุ่มเหงื่อ แนบลู่ไปกับขมับ นัยน์ตาสีอำพันมองดูเพดานห้อง มันยังคงเหมือนเดิม ไม่ต่างจากทุกวัน นาฬิกาปลุกที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงบอกว่าเป็นช่วงเช้ามืด เจ้าของเตียงลุกขึ้นนั่ง ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่



            เจ้าของเรือนร่างสูงโปร่งลุกขึ้นจากเตียง พับผ้าห่ม ดึงผ้าปูให้ตึงดังเดิม ตามที่น้าชายสอนเอาไว้จนติดเป็นนิสัย มองดูตัวเองในกระจกบานใหญ่ที่ตั้งพิงอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า ตัวเขาไม่ได้ต่างไปจากวันอื่น  ยกเว้นใบหน้าที่แสดงออกถึงความอิดโรย

            จินหลิง เป็นลูกชายของจินจื่อเซวียนและเจียงเหยียนหลี่ ทว่า น่าเสียดายทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงเฉิง และเว่ยอิง น้าชายทั้งสองจึงรับหน้าที่เลี้ยงดูต่อ เด็กน้อยผู้เผชิญกับความสูญเสียเติบโตขึ้นมาอย่างดี เรื่องการเรียนไม่ได้ด้อยไปกว่าลูก-หลานคนใดในตระกูล เรื่องกิจกรรมก็ทำได้เกือบทุกอย่าง ไม่ขาดตกบกพร่อง

            สิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้จินหลิงเป็นปัญหา คือความฝันประหลาด  และรอยที่คล้ายกับรอยสักบนแผ่นหลัง

            เมื่อนานมาแล้ว เวลาราวสามนาฬิกาในวันฝนตก รถยนต์คันหรูประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ตกลงไปในแม่น้ำสายหนึ่ง แสงไฟฉายสาดส่องเหนือผิวน้ำ และใต้น้ำ ทั้งซากคนและซากรถหายไปอย่างปริศนา สิ่งที่พวกเขาพบ มีเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น

            พิธีศพที่ไม่มีศพถูกจัดขึ้น เจียงเฉิง น้องชายของเจียงเหยียนหลี่ทุกข์ระทมกับการสูญเสีย เว่ยอิงปลอบเขา และทำหน้าที่ดูแลจินหลิง ในระหว่างนั้นเอง ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของหลานชาย

            คุณน้าทั้งสองพบว่าเด็กน้อยมีอาการละเมอ ลุกออกจากเตียง เดินออกไปนอกบ้าน บางครั้งไปที่สระว่ายน้ำ บางครั้งไปที่บึงบัวหลังบ้าน ทุกสถานที่ที่จินหลิงละเมอและพาตัวเองไปมีแต่สถานที่ที่เกี่ยวกับน้ำ

            บนแผ่นหลังเองก็เช่นกัน เดิมทีมันเป็นเพียงกลีบดอกไม้สีเหลืองหนึ่งกลีบ ดูเผิน  คล้ายกับรอยสักสีแต่เมื่อดูดี  แล้วกลับคล้ายปานมากกว่า วันคืนผ่านพ้น คนเติบโต จากกลีบหนึ่งกลีบพลันกลายเป็นดอกกล้วยไม้สีอำพัน เบ่งบานแตกกิ่งก้านเป็นช่อกล้วยไม้จนเกือบเต็มแผ่นหลัง

            หวาดกลัว พยายามค้นหาความจริง แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกังวล จนกระทั่งวันหนึ่ง เว่ยอิงที่เจียงเฉินไม่คิดว่าจะมีใครมาสู่ขอไปแต่งงานก็ได้เป็นฝั่งเป็นฝากับหลานวั่งจี

            ทายาทตระกูลหลานผู้ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ในศาลเจ้าแห่งนั้น มีอาคารไม้ที่ใช้เก็บสิ่งของทั้งมงคลและอัปมงคลเอาไว้ อาจจะเป็นโชคชะตาหรือความบังเอิญ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเว่ยอิงที่ไปช่วยสามีทำความสะอาด เขาได้พบกับภาพวาดภาพหนึ่ง

            ภาพวาดดอกกล้วยไม้ที่ถูกรังสรรค์ด้วยโลหิต มันเหมือนกับบนหลังของหลานชายไม่มีผิด...

            หลานวั่งจีเล่าว่ามันเป็นภาพต้องคำสาปของพวกปีศาจในแม่น้ำสายหนึ่ง ตามตำนาน กล่าวขานว่า เงือกตนหนึ่งหลงรักชายหนุ่มรูปงาม เขาเรียกเธอว่าเจ้าดอกกล้วยไม้ หลอกล่อเธอ โกหกว่ารักเธอเช่นกัน แต่ท้ายที่สุด ชายผู้นั้นก็กักขังเงือกสาวและทรมานอย่างโหดเหี้ยม เพียงเพื่อจะได้นำไข่มุกจากหยาดน้ำตาของหล่อนไปให้ท่านเจ้าเมือง เจ้าดอกกล้วยไม้โกรธแค้นเขา จึงวาดภาพนี้ขึ้นเพื่อสาปแช่งก่อนจะหมดลมหายใจ

            อย่างไรก็ตาม เพราะคำสาปของหล่อน ทำให้มีเด็กผู้ชายแลชายหนุ่มเสียชีวิตจากการจมน้ำอย่างแปลกประหลาดเป็นจำนวนมาก ท่านเจ้าเมืองจึงเชิญผู้ที่สามารถถอนคำสาปนั้นได้มาที่เมืองของตน ทว่า คำสาปไม่อาจลบล้างได้ จำต้องสร้างคำสาปมาหักล้างกัน จึงเกิดเป็นรูปวาดของดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินขึ้น

            มันหักล้างคำสาปได้สำเร็จ แต่ก็ไม่อาจคืนชีพให้ร่างไร้วิญญาณใต้แม่น้ำได้ และแม่น้ำสายที่ว่าก็เป็นสายเดียวกัน กับที่ครอบครัวของจินหลิงประสบอุบัติเหตุ

            ความหวาดกลัวทวีคูณ กระนั้น เพื่อความปลอดภัยของเด็กหนุ่ม ผู้ใหญ่ทั้งสามคนตัดสินใจสืบเรื่องนี้ต่อไปอย่างเงียบ 

            กริ๊ง !!

            เสียงของนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของห้องที่มัวแต่ยืนเหม่ออยู่หน้ากระจกรีบเดินไปปิดมัน จากนั้นจึงหยิบผ้าขนหนู เดินเข้าห้องน้ำไป

            วันนี้ไม่มีเรียน แต่มีหน้าที่ที่ต้องทำ จินหลิงอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยดี เสื้อผ้าที่เลือกมาสวมใส่เองก็เคลื่อนตัวสะดวก เหมาะกับช่วงที่มีฝนตกบ่อย

            เด็กหนุ่มเดินลงไปยังชั้นล่าง โพสอิทที่ตู้เย็นเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าน้าเจียงเฉินต้องไปทำงานที่ต่างประเทศอีกแล้ว และเขาก็ต้องหากินเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ขึ้นชื่อว่าเก่งเกือบรอบด้าน แค่เรื่องทำอาหารเช้าง่าย  อย่างไข่ดาว ไส้กรอก และแฮม ไม่ใช่เรื่องยากนัก

            หลังจากทานข้าวเช้า ล้างจาน ตรวจสอบดูความเรียบร้อยของบ้านแล้ว คนร่างโปร่งหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย ล็อกบ้านให้เรียบร้อย จากนั้นจึงนั่งรถโดยสารประจำทางไปโรงเรียนตามปกติ

            จินหลิงเป็นผู้จัดการทีมว่ายน้ำของโรงเรียน อันที่จริงก็ไม่ต่างจากการเป็นผู้ช่วยคุณครูเท่าไหร่ และในวันนี้ เขาต้องไปจดรายชื่อของผู้ที่คัดตัวผ่าน สามารถเข้าร่วมทีมเพื่อไปแข่งขันได้

            อันที่จริง ทีมว่ายน้ำของโรงเรียนมีนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงอยู่แล้ว ปีที่แล้วคว้าเหรียญทองมาได้ แถมยังมีแฟนคลับสาว  มาล้อมหน้าล้อมหลังอีก ทั้งที่ในสายตาของเขานั้น อีกฝ่ายเป็นเพียงแค่หนุ่มจืดจางเท่านั้น

            หลานซือจุย คือหนุ่มจืดที่ตัวสูง แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ถูกกฎระเบียบ ตัดผมสั้น ไว้หน้าม้าปัดข้าง ผลการเรียนยอดเยี่ยม ดูเหมือนพวกเนิร์ดด้วยซ้ำ การกีฬาเป็นตัวท็อป การดนตรีก็มีความสามารถเล่นกู่ฉินได้อย่างคล่องแคล่ว เรื่องนิสัยก็ใจดี เป็นมิตรกับผู้คนไปทั่ว แถมยังยอมถูกลงโทษเพราะไปชกต่อยเพื่อช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนที่ถูกรังแกอีก

            พวกสาว  หรือแม้กระทั่งคนในชมรมว่ายน้ำพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต่างกับจินหลิงลิบลับ พวกเขาบอกว่าคุณผู้จัดการทีมน่ะเผด็จการ เย่อหยิ่ง ปากตะไกร แถมยังชอบทำตัวปากไม่ตรงกับใจอีก โดยเฉพาะหลานจิ่งอี๋ที่เรียกเขาด้วยฉายาที่ฟังแล้วน่าถอดรองเท้ามาฟาดหัวอย่าง 'คุณหนูจิน'

            นาฬิกาบอกว่าเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะขึ้นแล้ว ภารโรงไขกุญแจสระว่ายน้ำในร่มไว้รอ แต่ยังไม่มีใครมาถึง เด็กน้อยผู้ต้องคำสาปเดินเข้าไปด้านใน วางกระเป๋าไว้บนเก้าอี้พลาสติกข้างสระ หยิบกระดานรองเขียนที่มีใบรายชื่อพร้อมช่องคะแนนหนีบเอาไว้มาตรวจสอบ เพื่อดูว่ามีรายชื่อที่ตกหล่นไปไหมตามที่เคยทำ

            เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง เพราะฝันร้ายเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่มีท่อนล่างเป็นปลาทำให้นอนหลับไม่เต็มอิ่ม ส่งผลให้เปลือกตาของเขาหนักอึ้ง

            โดยที่ไม่รู้ตัว เจ้าหนูจินผล็อยหลับไปในที่สุด ในขณะเดียวกัน ใครอีกคนก็มาถึง ตัวเก็งของทีมว่ายน้ำในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนมาถึงสระว่ายน้ำแล้ว สองขาก้าวไปตามทางอย่างเชื่องช้า ก่อนจะต้องเร่งให้เร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของกระดานรองเขียนตกกระทบกับพื้น และเสียงของอะไรบางอย่างตกลงไปในน้ำ

            เป็นจินหลิงนั่นเอง ที่ก้าวเดินทั้งที่ตาปิด มือสองข้างแนบไปข้างตัว เรียวนิ้วอ่อนแรงเกินกว่าจะหยิบจับอะไรได้ จึงปล่อยกระดานรองเขียนในมือตกลงบนพื้น สองขาภายใต้กางเกงขาสั้นก้าวพาร่างโปร่งไปจนถึงขอบสระ ก่อนจะเอนตัวไปด้านหน้า แล้วตกลงไปในสระ

            "จินหลิง !! "

            ถอดเสื้อวอร์ม ทิ้งกระเป๋าและสมาร์ทโฟนในมือตัวเองไว้บนพื้น หลังจากวิ่งมาจนถึงที่เกิดเหตุ กระโดดลงไปในสระอย่างเร่งรีบ การพยายามดึงตัวของอีกฝ่ายขึ้นมาเหนือน้ำทำได้อย่างยากลำบากราวกับว่ามีสิ่งที่มองไม่เห็นพยายามดึงร่างของเพื่อนร่วมชมรมเขาลงไป

            ความรู้สึกเจ็บแปลบที่แผ่นหลังทำเอาเด็กหนุ่มสกุลหลานถึงกับน้ำตาไหล ความรู้สึกที่ได้รับเหมือนมีใครสักคนจิกเล็บเข้ากับเนื้อแล้วข่วนเป็นทางยาว เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนในอ้อมแขนเริ่มดิ้นและสำลักน้ำ

            "แค่ก !! " คุณหนูจินไออย่างแรงจนกลัวว่าคอจะหลุดหลังขึ้นมาจากสระน้ำได้ ขอบตาของเขาแดงก่ำ ส่วนผู้ที่ให้การช่วยเหลือนอนคว่ำหน้าอยู่ข้าง  เสื้อยืดสีขาวที่สวมอยู่มีรอยเปื้อนของเลือด และเพราะเปียกน้ำ จึงสามารถมองเห็นได้ว่า บนแผ่นหลังกว้างของนักกีฬามีรอยข่วนเป็นทางยาวอยู่ถึงห้ารอย ครบตามจำนวนนิ้วพอดิบพอดี

            ตั้งสติอยู่พักใหญ่ หลานซือจุยยังคงนอนนิ่ง หัวใจของจินหลิงเต้นรัวด้วยความกลัว เด็กหนุ่มรีบประคองกายอีกฝ่ายลุกขึ้นนั่งและเขย่าตัวเรียกสติ

            "หลานซือจุย ! "

            ไม่มีเสียงตอบรับ

            "ซือจุย !! "

            นิ่งเงียบ กลับกัน เสียงหัวใจของผู้ขานนามทั้งเสียงสั่นยิ่งดังขึ้น

            "หลานเยวี่ยน !! "

            ดวงตาของเจ้าของชื่อเบิกโพลง ก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่งเพื่อปรับจังหวะลมหายใจให้เป็นปกติ

            "ขอโทษครับ"

            "ไม่ต้องมาขอโทษ ! ฉันตกใจแทบตาย นึกว่านายจะกลายเป็นผีเฝ้าสระ"

            ทว่า คู่สนทนากลับเงียบไป ดวงตาสีเข้มมองดูคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อยืดสีขาวสกรีนตราสัญลักษณ์โรงเรียนแนบลู่ไปกับเรือนกาย จนเห็นว่ามีดอกกล้วยไม้เล็ก-ใหญ่อยู่บนผิวเนียนขาว กิ่งก้านของมันพาดจากด้านหลังมาบนไหล่ เลื้อยลงไปเกี่ยวพันต้นแขน แผ่นอก เอว แล้วดูเหมือนจะยาวไปจนถึงต้นขา เพราะเขาเห็นกลีบดอกไม้โผล่พ้นจากกางเกงขาสั้น

            "ผมว่าจินหลิงไปเปลี่ยนชุดเถอะครับ"

            "ทำไมเจ้าของชื่อขมวดคิ้ว

            "ถ้าคุณครูมาเห็นว่ามีรอยสักจะดูไม่ดีนะครับ"

            เจ้าของนัยน์ตาสีอำพันหัวเราะ คล้ายกับจะเย้ยหยัน "นายเองก็เหมือนกันนั่นแหละหลานซือจุย

            เพราะในตอนนี้ ที่แขนข้างหนึ่งของกัปตันทีมว่ายน้ำ ก็มีดอกกล้วยไม้สีน้ำเงินเกี่ยวพันอยู่เช่นกัน

            "มองเห็นมันด้วยหรอครับ"

            เด็กหนุ่มสกุลจินขมวดคิ้ว "ก็เห็นสิ"

            ในตอนนั้นเอง แววตาของซือจุยพลันเปลี่ยนไป จากที่อ่อนโยนและเป็นมิตร กลับดุดันราวกับสัตว์ร้าย

            "เจ็บนะเว้ย ! " เจ้าของรอยกล้วยไม้สีเหลืองพยายามสะบัดมือของอีกฝ่ายที่เอื้อมมาบีบข้อมือของเขาเสียแน่นออก "ปล่อยเดี๋ยวนี้นะหลานซือจุย ! เป็นบ้าไปแล้วหรือไง ! "

            สิ้นเสียงตะโกน จินหลินได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว มันดังก้องไปทั่วบริเวณชวนขนลุก

            "หลานซือจุย !! "

            และในขณะเดียวกันนั่นเอง คนตรงหน้าก็ไออกมาเป็นเลือดก่อนจะเบิกตากว้างแล้วสลบไปในอ้อมแขนของเขา

            " ไม่ตลกนะ ! หลานเยวี่ยน ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ! "




TBC.








ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม