The Scent of Flora -CUT- JunHao







             คืนนี้ไม่มีเสียงหวอเตือนให้ระวังระเบิด ทุกอย่างเงียบสงัด กระนั้น นายทหารยังคงต้องสวมเครื่องแบบเอาไว้ เพื่อที่จะได้คล่องตัวยามมีลูกน้องมาตามไปทำงานด่วน แม้จะขาดเข็มขัดที่พาดเฉียงใต้อินธนูและคาดอยู่รอบเอว แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องมาเสียเวลาเปลี่ยนชุด

             แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างและม่านสีขาวเข้ามาด้านใน ส่องสว่างให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่แก้มสองข้างขึ้นสีเรื่อ ซ้ำยังร้อนผ่าว

             กลิ่นหอมหวานจาง ๆ เมื่อตอนหัวค่ำ บัดนี้ชัดเจนขึ้นจนจมูกแทบไม่ได้กลิ่นอื่น นอกจากกลิ่นของมันและกลิ่นสายฝน ทั้งที่ในคืนนี้ไม่มีฝนตกแม้กระทั่งเม็ดเดียว

             ลักษณะอาการเหมือนจะเป็นไข้ แต่ไม่ใช่ เพราะมีความรู้สึกโหยหาคนข้างกายเหลือเกินเข้ามาแทรก นัยน์ตากลมโตเปิดขึ้น จารุภพยังคงนอนหลับสนิท เวลาที่ดำเนินไปเพียงแค่เศษเสี้ยวนาที กลับส่งผลให้อาการที่เข้าใจว่าคือไข้หวัดทวีคูณ เรี่ยวแรงที่มีเริ่มน้อยลง เพียงแค่ลุกขึ้นนั่งยังตัวสั่นไปหมด

             "พี่จั่น ฮึก—" ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนหน้าท้องของอีกฝ่าย เขย่าตัวพร้อมเรียกชื่อ สัญชาตญาณบางอย่างบอกให้ขยับสะโพกถูไถกับหน้าขาของอีกฝ่าย ร่างกายเหมือนควบคุมไม่ได้

             "พี่จั่นช่วยน้อง" เสียงที่คล้ายจะสะอื้นร้องเรียก เจ้าของชื่อลืมตาขึ้นมา มือทั้งสองข้างของเขาพยายามดันตัวของคนอายุน้อยกว่าออก สมองประมวลผลด้วยความรวดเร็ว ยานอนหลับอยู่ในลิ้นชักของโต๊ะข้างเตียง แต่ดูเหมือนว่า คงจะยากหน่อยสำหรับการจะไปหยิบมันมาป้อนคนที่ยังดื้อดึงจะนั่งอยู่ที่เดิม

             นายทหารหนุ่มจิ๊ปาก เขาอดทนตั้งแต่ตื่นมากลางดึกแล้วได้กลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้ พยายามจนหลับไปอีกครั้ง จนกระทั่งถูกปลุกเมื่อสายไปเสียแล้ว

             เขาน่าจะให้คุณหนูกินยาตั้งแต่เดาได้ว่า ถุงหอมนั่นอาจเป็นยาปลุกความต้องการ

             งานแต่งงานของเขาจะถูกจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ในวันมะรืนนี้คุณพ่อ คุณแม่ของมันตาจะมาที่พระนคร เขาควรจะเลือกทางไหนดี

             คนอายุน้อยกว่าในตอนนี้กำลังนั่งคร่อมหน้าขาเขาอยู่ นัยน์ตาฉ่ำหวาน น้ำตาเอ่อคลอคล้ายจะร้องไห้ ตัวสั่นไปหมด ซ้ำคอเสื้อตัวใหญ่ที่ใส่นอนยังไหลลงมากองข้างหนึ่งจนเผยให้เห็นไหล่เนียนน่าฝากฝังรอยเขี้ยวลงไป สะโพกอวบขยับไปมาเหมือนกับต้องการจะยั่วยวน

             ถ้าเขาอดทนได้ นอกจากจะเป็นแพทย์ทหารแล้ว คงต้องไปเป็นบวชให้รู้แล้วรู้รอด

             "พี่จั่นต้องช่วยน้องนะ"

             แต่ตอนนี้เขายังไม่มีแผนที่จะไปบวช

             "มันตาเด็กดี..." ชายหนุ่มหยัดกายขึ้นพิงหัวเตียงโดยไม่ลืมที่จะใช้หมอนรองหลังเอาไว้ กระซิบข้างหูของร่างโปร่ง แล้วจึงดันให้นอนลง

             แนบริมฝีปากของตนลงบนเรียวปากของคนอายุน้อยกว่า บดเบียดเข้าหาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรุนแรงขึ้นเมื่อกลีบปากอิ่มเผยอออก เปิดทางให้สอดลิ้นเข้าไปสำรวจภายในโพรงปาก

             คุณหนูปิดตาลง ยกแขนสองข้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก เสื้อยืดถูกโยนไปข้างเตียงอย่างไม่สนใจใยดี กลิ่นดอกไม้กำลังมอมเมาให้เด็กน้อยผู้บริสุทธิ์กลายเป็นลูกแมวจอมยั่ว แขนสองข้างรั้งลำคอของคนอายุมากกว่าให้บดจูบลงมาหนักหน่วงมากขึ้น

             เสียงของน้ำลายและเสียงของการดูดดุนริมฝีปากดังน่าอาย ก่อนจะเงียบลงเมื่อจารุภพเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นที่ซอกคอ และลาดไหล่เสียแทน ฟันคมขบลงบนเนื้อเนียนเบา ๆ เป็นการหยอกล้อ สลับกับสร้างร่องรอยสีกุหลาบเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัว ว่ามันจะจางไม่ทันวันพ่อตา แม่ยาย มาถึง

             "อื้อพี่จั่น แรง ๆ " โอเมก้าที่ถูกอาการฮีทครอบงำร่ำร้อง เมื่อลิ้นชื้น และเรียวนิ้วของร่างหนาบดขยี้หยอกล้อกับยอดอกที่เริ่มแข็งเป็นไต แผ่นหลังบางแอ่นขึ้น มือสองข้างกดศีรษะของอีกฝ่ายให้แนบชิดเข้าหาตัว

             "น้องมันตาของพี่กลายเป็นเด็กลามกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" เขาผละออกพลางรวบขาของเด็กน้อยเอาไว้ ดึงกางเกงขายาวที่สวมอยู่ออกไป เรือนร่างโปร่งบางเปลือยเปล่า

             กลิ่นหอมยิ่งฟุ้งกระจายรุนแรงขึ้น จนอดทนที่จะอ่อนโยนต่อไปไม่ไหว เขายังไม่อยากทำให้ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบต้องแหลกสลาย กระนั้น เสียงหอบหายใจ และเสียงพร่ำเรียกชื่อก็ได้ปลุกสัญชาตญาณของความเป็นอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์เสียแล้ว

             มือทั้งสองข้างจับให้คุณหนูคว่ำหน้าลงอยู่ในท่าคลาน ช่องทางด้านหลังฉ่ำแฉะ แก่นกายมีหยาดน้ำปริ่มอยู่ที่ส่วนปลาย ทั้งที่ยังไม่ได้แตะต้องมันแม้เพียงนิด

             ทาบทับกายกับร่างบาง ไล่จูบตั้งแต่หลังลำคอผ่านเส้นผมสีขนกา ไล่ลงมาตามแนวสันหลัง ในขณะเดียวกันก็ปลดอาภรณ์ช่วงล่างของตน ดึงให้ร่นลง

             มือของโอเมก้าจิกเข้ากับหมอนใบโตที่วางอยู่ตรงหน้า ครู่หนึ่งจึงเปลี่ยนเป็นดึงมันเข้ามากอดเอาไว้ พลางขบฟันลงบนเรียวปากของตนเพื่อปิดกลั้นเสียงที่ดังขึ้นจนกลัวว่าใครจะได้ยินเข้า ยามเมื่อแก้มก้นถูกแหวกออก จีบเนื้อสีสดกระตุกถี่ ภายในบีบรัดสิ่งแปลกปลอมอย่างลิ้นอุ่นของอัลฟ่า ที่สอดแทรกเข้ามาโดยไม่มีการทิ้งช่วงให้ได้ตั้งตัว

             กลิ่นฝน กลิ่นดอกไม้ และกลิ่นหอมหวานของยากระตุ้นอาการฮีทอบอวนอยู่ในอากาศ การเบิกทางดูจะไม่ทันใจคนอายุมากกว่า ประกอบกับสารคัดหลั่งที่หลั่งออกมาเพื่อรองรับการสานสัมพันธ์ลึกซึ้งก็เป็นตัวช่วยอย่างดีอยู่แล้ว

             "อ๊า ! " คุณหนูเผลอส่งเสียงร้องจนยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทัน แรงอารมณ์ของผู้ไร้ประสบการณ์ถูกผลักดันไปจนถึงจุดที่สุด ส่วนอ่อนไหวฉีดพ่นหยาดคาวขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอน

             หยาดน้ำตาไหลอาบข้างแก้ม ทั้งเจ็บ ทั้งสุขสม ผสมปนเปกันไป ลมหายใจเองก็ช่างควบคุมได้ลำบาก ร่างสูงแทรกกายเข้ามาเสียจนเกือบสุดความยาว มือของเขาเอื้อมมาคว้าเอาแขนทั้งสองของคนอายุน้อยกว่า มันตาส่ายหน้า อ้าปากจะบอกเจตนาที่ไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงน่าอาย

             "พี่จั่น ฮะ อ๊ะ ! " ทว่า ช้าไปเสียแล้ว ความเสียวซ่านจากการเริ่มขยับกายอย่างเชื่องช้า แต่กระแทกเข้าหาอย่างสุดแรงจนบั้นท้ายกระทบกับหน้าขาเสียงดัง ส่งผลให้ทำได้เพียงแค่ครวญครางชื่อของอีกฝ่ายเท่านั้น

             คล้ายกับว่ามีดอกไม้นับพันเบ่งบานอยู่ในปอด เด็กหนุ่มหอบหายใจ เหน็ดเหนื่อยจากการได้รับความรัก กระนั้น ร่างกายยังคงเรียกร้องว่าต้องการถูกเติมเต็มให้มากยิ่งขึ้น ร่างโปร่งถูไถแผ่นอกไปกับเตียงนอน ยกสะโพกขึ้นสูงพร้อมแยกขาออกกว้างเพื่อรองรับความแข็งขืนที่ขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ ผนังอุ่นขมิบรัดเสียจนผู้ชักนำต้องนิ่วหน้า

             ใบหน้าเลอะคราบน้ำตา นัยน์ตาหวานเชื่อม และเรียวปากเห่อช้ำน่าบดจูบอีกสักครั้งสองครั้ง มันตาหันมามองคนอายุมากกว่า

             "พี่จั่น อื้อ เข้ามาลึก ๆ " เรียกร้องออกไปตามสัญชาตญาณนำพา ผู้ที่พยายามประคองสติเอาไว้ไม่ให้รุนแรงไปมากกว่านี้เพราะไม่อยากทำให้ครั้งแรกเป็นเรื่องน่ากลัวขบกรามแน่น

             คว้าปืนมายิงเขาให้ตายตอนนี้ ยังง่ายกว่าการทำตามความต้องการของคุณหนู

             ชายหนุ่มออกแรงดึงแขนของร่างบางให้เปลี่ยนมานั่งตักของตนเอาไว้แทน ช่องทางสีสดกลืนกินแก่นกายของเขาเข้าไปจนสุด คนอายุมากกว่าสอดแขนเข้าไปรองใต้ข้อพับขาทั้งสองข้าง แยกมันออกกว้างเท่าที่ตนต้องการ ก่อนจะยกตัวคุณหนูขึ้นและกดลงมา ในจังหวะเดียวกันกับที่ขยับกายสวนกลับจนสามารถสอดแทรกเข้าได้ลึกกว่าเดิม

             แต่ดูเหมือนจะยังมีอีกปัญหาที่ทำให้เด็กน้อยของเขาไม่พอใจ

             "ทำน้องแรง ๆ อ๊ะ พี่จั่น อือ—"

             จารุภพกำลังคิดทบทวน ว่าตัวเองตายไปแล้วหรือยัง เหตุใดคนบนตัวจึงเร่าร้อนได้ถึงเพียงนี้ กระนั้น ก็ยอมตามใจอีกฝ่ายแต่โดยดี ด้วยการดันให้ตัวของมันตาให้อยู่ในท่าคลานเข่าอีกครั้ง ทาบทับกายลงบนแผ่นหลังเนียน ขยับสะโพกกระแทกกระทั้นเข้าหา เสียจนขาสองข้างของคนอายุน้อยกว่าสั่นเทาแทบประคองกายไว้ไม่ไหว เขาจึงใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอวประคองเอาไว้

             มอบจุมพิตหวานล้ำให้กับคู่ของตนอีกครั้ง มอมเมาให้ในหัวของเด็กหนุ่มมีเพียงหมอกราคะ ร่างกายร้อนรุ่มดั่งถูกจุดไฟเผา ยิ่งร่างสูงขยับกายรัวแรงขึ้นก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากจนเหมือนจะขาดใจให้ได้

             งานแต่งงานในอีกสามวันคงช้าไปเสียแล้ว มือข้างหนึ่งของหมอจั่นเคลื่อนมาปัดเส้นผมที่บดบังหลังลำคอของคุณหนูออกให้พ้น ผละออกจากเรียวปากแดงเรื่อ ฟันคมขบลงบนผิวเนื้อ กัดสร้างร่องรอยพันธะสัญญาเอาไว้

             มันตาจิกเล็บเข้ากับปลอกหมอนจนมันยับยู่ยี่ ส่วนอ่อนไหวปลดปล่อยหยาดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง ก่อนที่ร่างบางจะเชิดหน้าขึ้นและส่งเสียงร้องออกมาด้วยเพราะสุขสมจนไม่อาจบรรยายได้ อัลฟ่ากระแทกกายหนักแน่นอีกสองสามครั้ง โพรงอุ่นที่เหนียวหนืดด้วยสารคัดหลั่งบัดนี้ถูกเติมเต็มด้วยของเหลวสีขาวขุ่น โพรงอุ่นบีบรัดแน่น จารุภพจูบซับน้ำตาให้กับอีกฝ่าย

             คุณหนูเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว

             "พี่รักน้องมันตานะครับ" กระซิบบอกรักข้างใบหู ผู้ฟังเหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะตอบเขาได้ในขณะนี้ เด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงความอุ่น และความเป็นชายของอัลฟ่าที่กำลังพองขยายอยู่ในกาย

             อาการน็อท กลไกทางธรรมชาติที่มีไว้เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการมีทายาทของอัลฟ่าและโอเมก้า

             "น้องก็รักพี่จั่นครับ"


             แก้มใสสองข้างขึ้นสีเรื่อ คำพูดของเซทย้อนกลับเข้าในหัว กระนั้น จูบที่หวานดั่งขนมในมื้อเย็นจากพี่จั่นของเขาก็ทำให้ลืมคำพูดเหล่านั้นไปได้โดยพลัน


กลับไปอ่านต่อได้ที่ http://writer.dek-d.com/korn2499/writer/viewlongc.php?id=1845293&chapter=13


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม