[OS] Punishment - CUT



Punishment

- ว่ากันว่า เด็กไม่ดื้อก็ต้องถูกลงโทษ -

คำเตือน : ฟิคเรื่องนี้เกิดขึ้นจากความมโนของข้าพเจ้าจริง ๆ ไม่อิงอะไรทั้งนั้น /ดมยาดมสงบจิตสงบใจ




                หยาดเหงื่อผุดพรายขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเข้ม นัยน์ตากลมโตจ้องมองคนนั้นที คนนี้ทีเหมือนกับต้องการความช่วยเหลือ กระนั้น ทั้งจองฮัน ทั้งชาน และทั้งซูนยองก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร อืม อันที่จริง จองฮันก็มีลอบยิ้มมาให้ แต่รอยยิ้มนั้นทำให้หมิงฮ่าวรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยมากกว่าเก่าอีก

                "เอาล่ะ มาซ้อมกันต่อเถอะ" เสียงของคุณครูเสือ ลีดเดอร์ performance unit ในตอนนี้เป็นเหมือนเสียงคำสั่งจากนรกของเขา

                วางมือลงบนพื้นพยายามดันกายให้ลุกขึ้น กระนั้น เพียงแค่ขยับความรู้สึกแปลกประหลาดก็พลันเกิดขึ้นจนต้องลงไปนั่งอีกครั้ง ลมหายใจเริ่มไม่เป็นจังหวะ และแล้วก็ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนสังเกตเห็นความผิดปกตินี้

                มินกยูและซอกมิน เพื่อนร่วมรุ่นปีเกิด 97 Line เดินตรงเข้ามาหาคนที่ดูเหมือนว่ากำลังมีปัญหา ทว่าดวงหน้าที่ขึ้นสีเรื่อ ริมฝีปากสีสดที่กำลังถูกกัดเม้ม นัยน์ตากลมโตที่หวานฉ่ำรี่ปรือ เรียวขาที่กำลังสั่นระริก ทำเอาทั้งคู่ถึงกับไปไม่เป็น จองฮันที่ยืนอยู่ห่าง ๆ จึงจำต้องเดินเข้ามาร่วมวง

                "เดี๋ยวฮยองดูมยองโฮเอง นายสองคนไปซ้อมต่อเถอะ" โบกมือเป็นเชิงไล่คนทั้งสองก่อนจะหันไปเรียกใครบางคนที่กำลังลอยหน้าลอยตาอยู่อย่างสบายใจ

                "จุน มาพามยองโฮไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำที" คำพูดที่เหมือนชี้เป้าทำให้ร่างโปร่งเบิกตากว้าง ลงสังหรณ์บอกว่าหายนะกำลังจะมาเยือน กระนั้น ไม่มีอะไรช่วยเขาได้แล้วเพราะใครคนนั้นเดินตรงเข้ามาพร้อมทั้งอุ้มตัวเขาพาดบ่าเดินออกจากห้องไป

                ตอนนี้ต่อให้เป็นหงอคงก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้วล่ะ...

                ประตูห้องน้ำอยู่ตรงหน้า และในที่สุด เจ้าห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นี่ก็กลายเป็นเหมือนห้องเย็นสำหรับหมิงฮ่าวไปเสียแล้ว สันหลังรู้สึกเย็นวาบทันทีทั้งที่ในตัวตอนนี้ร้อนรุ่มดั่งถูกจุดไฟเผาตัวเขาถูกวางลงบนเจ้าเครื่องสุขภัณฑ์ที่ถูกปิดฝาลงแล้ว และมีสายตาจากอีกฝ่ายกำลังจ้องมองมาอยู่อย่างมีเลศนัย

                ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงบนพื้นพลางขยับตัว เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้จนริมฝีปากชิดใบหู กระซิบแผ่วเบาบอกประหนึ่งตั้งใจถ่วงเวลาให้อีกฝ่ายรู้สึกทรมานมากขึ้น "เด็กดื้อ"

                "เลิกบ่นผมสักทีเถอะน่า จุนฮยอง เอามันออกไปได้แล้ว" คำพูดของเด็กดื้อดูฟังแล้วดังบ้างเบาบ้างเพราะการหอบหายใจ กระนั้นความดื้อรั้นที่มียังคงเด่นชัด

                "เอาอะไรออกไปหรอ เกอจำไม่ได้นะว่าเคยใส่อะไรเอาไว้ในตัวเราด้วย" คำตอบที่ได้ฟังทำเอาเด็กน้อยของจุนฮวีหัวเสีย ทว่าไม่มีช่วงจังหวะเว้นเอาไว้ให้ทันได้ต่อล้อต่อเถียง ฝ่ามือของอีกฝ่ายก็สอดเข้ามาใต้เสื้อยืดตัวโปรดเสียก่อน ปลายนิ้วที่เคล้นคลึงตุ่มไตสีหวานอยู่นั้นทำให้ในหัวของเด็กหนุ่มเริ่มกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าจนลืมตัวเผลอจับชายเสื้อเลิกขึ้นพร้อมทั้งแอ่นกายรับสัมผัสที่ปรนเปรอให้

                ไม่ว่าจะเป็นเรียวลิ้นที่ไล้เลียสลับกับทั้งดูด ทั้งกัดเม้มนั้นก็ดี จะเป็นฝ่ามือที่กำลังลูบลงต่ำนั้นก็ดี ความรู้สึกที่ได้รับมันดีเกินไปจนเผลอเชิดหน้าขึ้นและร้องครางออกมา แต่แล้วผู้ริเริ่มกลับหยุดลงเสียดื้อ ๆ และเปลี่ยนเป็นยกนิ้วขึ้นแตะปากทำท่าบอกให้เบาเสียงเสียแทน

                "อยากให้คนอื่นรู้หรอครับ ว่าเรากำลังทำอะไรกัน"

                ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ไม่มีแรงจะยกขาแล้ว หมิงฮ่าวก็อยากจะถีบคนตรงหน้าล้มคว่ำสักทีโทษฐานกวนประสาทกับคนที่ไม่ว่าจะทางไหนก็มีแต่เสีย อย่างเช่นตอนนี้ที่กำลังเสียอาภรณ์ช่วงล่างไปทั้งชั้นนอกชั้นในนี่ไง

                "เอาล่ะ ทีนี้ จะให้เกอเอาอะไรออกนะครับ ? "

                หมิงฮ่าวได้แต่กัดฟันกรอด บทจะนึกโกรธคนตรงหน้าก็โกรธได้ไม่เต็มที่ เพราะจองฮันบอกว่าเขาเองก็มีส่วนผิดที่เมินจวิ้นฮุยซ้ำยังเผลออารมณ์ร้อนจนตะคอกใส่อีกต่างหาก ก็ตอนนั้นกำลังหงุดหงิดนี่...

                กลืนน้ำตาลงคออย่างฝืด ๆ ก่อนจะค่อย ๆ หันหลังแล้วโก่งโค้งตัว ยกสะโพกขึ้นพร้อมทั้งใช้มือสองข้างของตนแหวนแก้มก้นออกจนสามารถเห็นช่องทางสีสวยนั่นได้ถนัด รอบจีบที่กำลังกระตุกรัดเป็นจังหวะเหมือนกำลังต้องการอะไรที่มากกว่าของเล่นที่เขาใส่เอาไว้ในตัวเพื่อเป็นการลงโทษ

                อันที่จริงก็ไม่ได้โกรธอะไรถึงเพียงนั้น จวิ้นฮุยก็แค่อยากแกล้งน้องชายสุดที่รัก ไม่สิ... แฟนของตัวเองก็เท่านั้น...

                "อยู่ไหนกันนะ" กวนประสาทคนตรงหน้าที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีไปอีกครั้งพลางมือลงบนสะโพก บีบเค้นคลึงอย่างหมั่นเขี้ยว

                "สงสัยต้องขุนให้อ้วนมากกว่านี้แล้วละมั้ง ทั้งเอว ทั้งสะโพก เล็กนิดเดียวเอง"

                ประโยคคำพูดและเสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่กำลังไล่กดจูบลงมาตั้งแต่แผ่นหลังลากต่ำจนถึงขาอ่อนแต่กลับเว้นช่องทางอ่อนนุ่มนั่นไว้เป็นการกลั่นแกล้งทำให้ร่างโปร่งเผลอตัวโวยกลับไป

                "แต่จวิ้นเกอก็กระแทกเข้ามาแบบไม่ผ่อนแรงทุกครั้งไม่ใช่หรือไง"

                ขุดหลุมฝังตัวเอง... ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ สวี่หมิงฮ่าว...

                "รีบเอามันออกแล้วกระแทกเข้ามาในตัวผมสักทีเถอะ"

                แต่ไหน ๆ ก็ขุดหลุมฝังตัวเองไปแล้ว คงไม่มีอะไรให้ต้องมาเขินอายแล้ว ประโยคที่ดูลามกแบบนั้นถึงได้ถูกเอื้อนเอ่ยออกมา
                คนอายุมากกว่าเผยรอยยิ้มร้ายกาจออกมาในขณะที่ใช้ปลายนิ้วบดคลึงรอยจีบเนื้อพอให้คนที่กำลังโก่งโค้งอยู่นั้นแอ่นกายยกบั้นท้ายสูงขึ้นจนสะดวกต่อการสอดสองนิ้วเข้าไปด้านใน ผนังนุ่มบีบรัดเสียจนแทบคลั่งด้วยเพราะการกวาดวนและกดซ้ำลงบนจุดไวต่อความรู้สึก ของเล่นชิ้นนั้นยังคงสั่นรัว แน่นอนว่ามันถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำให้หมิงฮ่าวรู้สึกทรมานมากขึ้นด้วยเช่นกัน

                "อ๊า !! "

                ใช้นิ้วทั้งสองกดมันลงกับจุดรวมความรู้สึกย้ำ ๆ จนร่างบางที่เม้มปากเอาไว้สะดุ้งโหยง ซ้ำยังเผลอร้องออกมาเสียดังจนแทบยกมือขึ้นตะครุบปากตัวเองไม่ทัน ความเสียวซ่านกำลังเล่นงานอย่างหนักหน่วงจนสติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง

                "อ๊ะ อื้อ ! "

                ร้องออกมาเสียดังอีกครั้งเมื่อร่างสูงดึงของเล่นชิ้นนั้นออกมาอย่างรวดเร็ว กดปิดสวิทช์มัน วางไว้ที่ไหนสักที่ในห้องน้ำแคบ ๆ นี้ในขณะที่ใช้มืออีกข้างจับให้คนอายุน้อยกว่าหันหน้ากลับมา ด้วยเพราะยังอยู่ในท่าคุกเข่าจึงทำให้ใบหน้าเสมอกับกลางลำตัวของอีกฝ่ายที่กำลังยืนเต็มความสูงอยู่อย่างช่วยไม่ได้

                ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมาย มือบางขยับไปจัดการกับอาภรณ์เบื้องล่างของอีกฝ่ายทันที ไล่โลมเรียวลิ้นไปบนส่วนแข็งขืนของคนตรงหน้าอย่างที่เคยทำก่อนจะครอบปากลงบนส่วนหัวและปรนเปรอลิ้มรสมันประหนึ่งกำลังกินไอศกรีมรสโปรด ดวงตากลมโตฉ่ำคลอด้วยน้ำตาจากไฟพิศวาสช้อนมองร่างสูงพร้อมทั้งขยับมือช่วยส่วนที่โพรงปากของตนไม่สามารถมอบสัมผัสวาบหวามให้ได้

                ร่างสูงวางมือลงบนศีรษะของคนตัวเล็กสอดนิ้วเข้าระหว่างเรือนผมนุ่มกดดันเข้าหาตัวให้อีกฝ่ายรับเอาตัวตนของเขาเข้าไปให้ลึกขึ้น ฟันคมที่ครูดลงมาในบางครั้งทำให้รู้สึกดีจนแทบคลั่ง ท้ายที่สุดอารมณ์ก็ถูกผลักดันไปถึงจุดสุด ผลลัพธ์ของมันถูกกลืนกินลงไปโดยใครบางคนที่กำลังผละใบหน้าออกห่างพลางเลียริมฝีปากของตนอย่างยั่วยวน

                เด็กหนุ่มนั่งลงพร้อมทั้งส่งยิ้มคล้ายกับกำลังท้าทายมาให้ ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างพร้อมทั้งแยกเรียวขาของตนออกจนเป็นรูปตัวเอ็ม กลีบปากสีสดถูกกัดเม้ม ขณะเดียวกัน มือทั้งสองก็ทำหน้าที่แหวกเนินเนื้อเปิดทางให้สามารถเห็นช่องทางที่กำลังกระตุกถี่เรียกร้องสิ่งที่มากกว่าทั้งนิ้วและของเล่น

                ในตอนนี้เองหมิงฮ่าวไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าท่าทางของตัวเองเป้นอย่างไรและกำลังทำอะไรบ้าง สติที่ล่องลอยหายไปทำให้อารมณ์เป็นตัวฉุดดึงให้ร่างกายขยับไปตามแรงดึงดูดของไฟรักที่กำลังแผดเผาอยู่ภายใน แต่ก็น่าแปลกที่ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูโดยจวิ้นฮุยที่ไม่ขยับกายเข้ามาใกล้

                "เด็กดื้อน่ะ ต้องถูกลงโทษ..."

                "อ๊ะ อื้อ !!! "

                ช่องทางสีอ่อนนุ่มกำลังถูกรุกรานโดยสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วอยู่พอสมควร เด็กหนุ่มอ้าปากออก ร้องครวญครางอย่างลืมตัว ฝ่ามือทั้งสองวาลงบนต้นแขนของอีกฝ่าย จิกปลายเล็บข่วนครูดไปบนผิวเนื้อของจวิ้นฮุยโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือไม่เพื่อระบายอารมณ์ทั้งหมดที่ประดีประดังเข้ามา ขาเรียวเล็กทั้งสองข้างถูกจับขึ้นพาดบ่าของคนที่แทรกกายเข้ามาทีเดียวจนสุดและเริ่มขยับกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดไวต่อความรู้สึกนั้นทันทีโดยไม่มีการหยุดค้างเอาไว้

                ก็นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเขาเสียหน่อย... แต่ก็ไม่ต้องไปหาคำตอบให้ยุ่งยากหรอกว่านี่คือครั้งที่เท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะครั้งไหนก็ทำให้รู้สึกดีเสียจนหลงลืมตัวตนไปได้อย่างง่ายดาย

                ไม่ว่าจะด้วยจูบที่ละมุนนุ่มแต่กลับทำให้ริมฝีปากของคนตัวเล็กถูกดูดดึง ขบกัด เสียจนเห่อช้ำ ลิ้นอุ่นที่กวาดต้อนวนเกี่ยวกระหวัดกันไปมาพาลให้ลมหายใจเหมือนจะขาดช่วงลง ลาดไหล่ แผ่นอกแบนราบขาวเนียน ทุกที่ล้วนถูกตีตราสร้างรอยประทับเอาไว้ให้รู้ว่าเหวินจวิ้นฮุยเป็นคนหวงของขนาดไหน แม้กระทั่งที่ขาอ่อนเองก็ยังมีรอยจูบอยู่เลย เขาคงต้องหาเรื่องปฏิเสธโคดี้นูน่าไม่ให้เลือกกางเกงขาสั้นมาให้ใส่ซะแล้วสิ

                "อ๊ะ ! " เผลอร้องออกมาเสียงดังอีกครั้งเมื่อถูกแกล้งโดยการหยุดขยับไปครู่หนึ่งอย่างกะทันหันและกระแทกกายเข้ามาอีกครั้งอย่างแรงและเริ่มขยับรัวเร็ว

                "อ-- อย่า แกล้ง อา ! กัน... ได้ไหม" ตั้งใจจะโวยวายใส่อีกฝ่ายเสียหน่อย ทว่า ตัวกลับถูกจับพลิกให้หันหลังแทน และเมื่ออยู่ในโพสิชั่นแบบนี้แล้วก็ยิ่งทำให้อะไร ๆ สอดไส้เข้ามาได้ลึกยิ่งขึ้น

                การขยับกายของคนที่กำลังมอบสัมผัสอันสุดแสนจะวิเศษนี้ให้ดูเหมือนจะผ่อนลง ซ้ำยังทำเหมือนกับจะหยุดเสียดื้อ ๆ เด็กหนุ่มผู้ถูกขัดใจเอียงคอเอี้ยวหน้าหันกลับมองจวิ้นฮุยตาขวาง แต่หยาดน้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ทำให้ไม่ต่างอะไรจากสายตาของลูกแมวที่กำลังถูกขัดใจ

                "มองแบบนี้ เสี่ยวปาจะให้เกอทำอะไรน๊า" กล่าวพร้อมทั้งแนบกายลงจนแผงอกแนบชิดกับแผ่นหลังของร่างบาง ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะมาพบกันและบดคลึงเคล้ามอบความละมุนละไมให้อีกครั้งและผละออก การปลอบโยนนี้เหมือนจะได้ผล เมื่อสายตาที่มองมาครานี้กลับกลายเป็นออดอ้อนน่าเอ็นดู

                "จวิ้นเกอ... ที่ตะคอกใส่ตอนนั้นน่ะ เสี่ยวปากำลังอารมณ์เสีย... " น้ำเสียงแผ่วเบาที่เอ่ยออกมายิ่งฟังแล้วก็ยิ่งรื่นหู "แต่ตอนนี้กำลังอารมณ์ดีเลยล่ะ... จะไม่ตะคอกใส่แล้ว แต่จะให้จวิ้นเกอได้ฟังอย่างอื่นแทน"

                รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวเล็ก "เพราะฉะนั้นก็ช่วยทำให้เสี่ยวปาร้องออกมาทีสิ"

                จวิ้นฮุยนิ่งอึ้งไปสักพัก แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากเด็กดื้อ บางทีการปล่อยอยู่กับพี่ ๆ มากไปเห้นทีคงไม่ดีเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นสอนอะไรให้บ้าง แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนจะคลุ้มคลั่งจนอยากจะจับคนตัวบางกระแทกกระทั้นให้สลบไปคาอก

                อันตรายเสียจริง... สวี่หมิงฮ่าว...

                "ได้ครับ... จะช่วยให้ได้ร้องออกมาแน่นอน เด็กดีของเกอ"

                "อ๊า ! อ๊ะ ๆ ๆ ฮะ อื้อ ! เร็วกว่านี้ได้ไหม อ๊า ! "

                คำเรียกร้องระหว่างที่กำลังโถมกายใส่ได้รับการตอบสนองอย่างที่ต้องการโดยมีบริการพิเศษให้เป็นการกดจูบลงบนลำคอขาวนวล ไม่ว่าจะตรงไหนก็รู้สึกถึงรสหวานไปหมด หมิงฮ่าวน่ะ หวานไปทั้งตัวจนอยากจะลิ้มชิมรสนี้ซ้ำ ๆ เสียงครวญครางเองก็กำลังมัวเมาเขาด้วยเช่นกัน

                อา... ให้ตายสิ เด็กดื้อคนนี้ เขาตามใจมากไปจนเสียคนหรือเปล่า... แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ เพราะเด็กดื้อกำลังออดอ้อนอย่างน่ารักอยู่นี่นะ


                ก็ต้องเอ็นดูให้ถึงที่สุดก่อนล่ะนะ...

                "ได้ครับ เกอจะตามใจเสี่ยวปาทุกอย่างเลย..."







ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม