[CUT] Punishment Pt 2
Punishment Part 2.
- เรื่องของเราไม่ใช่ของใคร เมินกันทำไมหนาเธอ... -
เรื่องราววันนี้ที่แปลกนั่นคือ
ตั้งแต่เล่นเกมมา ไม่ว่าจะทำอะไร จวิ้นฮุยก็ไม่ได้สนใจเขาเลย...
แถมตอนนี้ก็เดินเข้าห้องไปไม่ยอมพูดยอมจาด้วย
ตัดสินใจลุกเดินตามเข้าไปในห้องทั้งที่ยังคงสวมชุดที่ถูกสั่งให้ทำเพราะเล่นเกมแล้วเวรกรรมส่งผลดลให้พี่
ๆ เลือกเลขนั้นเอาไว้อยู่
ในห้องนอน
ใครบางคนกำลังนั่งอยู่บนเตียง
ดวงตาคู่นั้นที่มักจะจับจ้องมาที่ร่างโปร่งกำลังให้ความสนใจกับโทรศัพท์มือถืออยู่
คนอายุน้อยกว่ายู่ปากพองแก้มเล็กน้อยก่อนจะล็อกประตูให้เรียบร้อย
และเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
ได้...
สนใจแต่โทรศัพท์ใช่ไหม...
"จะทำอะไรน่ะ"
ท้ายที่สุดร่างสูงก็เป็นฝ่ายปริปากเมื่อหมิงฮ่าวนั่งคุกเข่าลงบนพื้นตรงหน้าระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา
มือบางเอื้อมมาปลดกระดุม รูดซิปกางเกงลง
"ก็เห็นว่าไม่สนใจกัน
ผมทำอะไรผิดอีกล่ะ" ฟังดูเหมือนจะประชดประชันเล็กน้อย กระนั้น
เสียงของเจ้าตัวก็เงียบลงไป
เมื่อริมฝีปากนุ่มเริ่มลงมือจัดการกับส่วนกลางลำตัวของชายหนุ่ม กดจูบเบา ๆ
บริเวณส่วนปลาย ฝ่ามือทั้งสองข้างสัมผัสไล้เบา ๆ ก่อนจะส่งมันเข้าไปสัมผัสอุ่นชื้นในโพรงปาก
ขยับรูดขึ้นลงประหนึ่งว่าชำนาญการหนักหนา
ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมามองใครบางคนที่ยังคงกดโทรศัพท์อยู่เหมือนเดิมโดยไม่ได้สนใจแล้วก็ได้แต่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้ว่าอารมณ์จะถูกผลักดันให้ไปถึงจุดสิ้นสุดของมันแล้ว
ถึงแม้ว่าจะกลืนกินเอาผลลัพธ์ของอารมณ์เข้าไปแล้ว
แต่ผู้ที่ถูกเมินก็ยังถูกเมินต่อไป
จะมาไม้ไหน
งอนอะไรอีก ให้ตายสิ...
"เสี่ยวปา..."
เสียงเรียกชื่อของผู้ก่อการดังขึ้นหลังจากที่จวิ้นฮุยถูกผลักให้ล้มตัวลงนอนบนเตียง
ก่อนจะตามด้วยเจ้าฉายานามเสี่ยวปาที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และก้มตัวลงเกี่ยวชั้นในของตนออกให้พ้นเรียวขา
โยนมันลงบนพื้นอย่างไม่ใยดีแล้วปืนขึ้นเตียงตามมา
ร่างโปร่งบางนั่งลงบนตัวอีกฝ่าย
จ้องมองลงมาอย่างถือดีในขณะที่เอื้อมมือไปแย่งเอาอุปกรณ์สื่อสารนั้นออกจากมือ
หน้าจอที่แสดงห้องแชทและการสนทนาของแฟนตัวเองกับเพื่อนสาวคนหนึ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิด...
ถึงจะเป็นเพียงแค่การปรึกษาเรื่องที่ถูกแฟนทิ้งก็เถอะ
"ผู้หญิงคนนี้ใครน่ะ"
"ก็เพื่อนไง
เขามาระบายเฉย ๆ " ตอบกลับไปทั้งที่พยายามจะแย่งโทรศัพท์ของตัวเองกลับ
แต่กลายเป็นว่า มันกลับถูกกดล็อกหน้าจอและโยนไปเตียงข้าง ๆ อย่างแม่นยำ
ผู้เป็นคนโยนกระชากคอเสื้อของร่างสูงให้ยันตัวลุกขึ้นมานั่ง ด้วยระยะห่างขนาดปลายจมูกที่ห่างกันไม่ถึงคืบนี่เองทำให้สามารถจับจ้องเข้าไปในนัยน์ตาคู่สวยที่กำลังแสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาได้ชัดเจนขึ้น
กลีบปากนุ่มมอบจูบละมุนให้ชายหนุ่ม
บรรจงบดเบียดเข้าหาทีละน้อยก่อนเปิดปากออกเพื่อให้จวิ้นฮุยที่ตอบรับกลับส่งเรียวลิ้นเข้ามาสำรวจกวาดหาความหวานได้ตามใจชอบ
ท้ายที่สุด ทั้งสองก็ผละออกห่างจากกันอีกครั้ง
"จวิ้นเกอ...
รู้ใช่ไหมว่าไม่ชอบ เมินเสี่ยวปาแล้วไปสนใจคนอื่นมากกว่า ไม่ชอบ"
"แล้วทีเราเมินเกอละครับ"
ยอกย้อนกลับไปพลางไล้มือลงมาตามแนวสันหลังตั้งแต่ลำคอ
ขยำขยี้สะโพกนิ่มภายใต้เนื้อผ้าของชุดกี่เพ้าสีแดงสดอย่างหมั่นเขี้ยว
"ก็ตอนนี้ไม่เมินแล้วไง
ให้ความสนใจอย่างดีด้วย" สีหน้าที่ดูจริงจังของฝ่ายพูดทำให้เผลออมยิ้มไม่ได้
ยิ่งสองมือที่แตะลงข้างแก้มของเขาและออกแรงดึงยืดมันออกก็ด้วย น่ารัก...
"เรื่องของเขาก็เรื่องของเขา
ต่อให้มันเป็นหนักหนาขนาดไหน แต่มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนทางนั้น
อย่าเอามันมาทำให้เราต้องเมินกันได้ไหม"
"ครับ
แล้วถ้าไม่เมินกันแล้ว ต้องทำอะไรกันดี"
"เล่นเปายิงฉุบมั้ง"
ก็ยังไม่วายจะเล่นอะไรกวนประสาทใส่กัน แต่ก็คงจะอยู่กวนประสาทได้ไม่นาน เพราะจากที่เปล่งเสียงออกมาให้เป็นประโยคน่าชวนตี
ตอนนี้กลับต้องเปล่งเสียงครวญครางออกมาเบา ๆ
แทนหลังจากที่ผิวเนื้อใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกสัมผัส
สะโพกกลมกลึงถูกขยำขยี้อีกครั้งอย่างสนุกมือ
ปลายนิ้วไล้วนแตะซ้ำ ๆ ลงบนรอบจีบปากทางก่อนจะค่อย ๆ สอดลึกเข้าไปด้านใน
กดย้ำลงบนจุดที่เขารู้ดีว่าจะทำให้เกิดเสียงอันไพเราะ ใบหน้าของเด็กหนุ่มขึ้นสีแดงเรื่อ
นัยน์ตามีน้ำใสเอ่อคลอ
แววตาที่ฉายออกมาแสดงให้เห็นว่ากำลังล่องลอยไปกับสัมผัสเหล่านี้
แต่ดูเหมือนคนพี่จะมีความคิดอยากกลั่นแกล้งคนน้องขึ้นมาเสียได้ทั้งที่กำลังป้อนจูบให้อีกครั้ง
นิ้วเรียวยาวเกี่ยวเข้ากับขอบของถุงน่องสีดำ
ดึงมันเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้มันดีดสัมผัสกับเรียวขาขาวเกิดเป็นปฏิกิริยาสะดุ้งกับแรงทุบลงบนบ่า
สายตาแทนรอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของจวิ้นฮุยแต่ก็เกิดการมองค้อนใส่โดยหมิงฮ่าวเช่นกัน
ฝ่ามือข้างนั้นของร่างสูงยังคงหาเรื่องเล่นซนไปเรื่อย
ลูบไล้ลากขึ้นมาตั้งแต่ส่วนน่องผ่านเนื้อถุงน่องขึ้นมาจนถึงต้นขาขาว
ท้ายที่สุดก็ถอยออกห่างจากผิวเนื้อเนียนนุ่มของอีกฝ่าย
รวมทั้งดึงนิ้วทั้งสามที่กวาดวนอยู่ในตัวของร่างโปร่งออกมาด้วย
ทุกอย่างนิ่งชะงักไป คนตัวเล็กขมวดคิ้ว
ในขณะที่ฝ่ายตัดสินใจหยุดทุกสัมผัสทั้งที่ตัวเองก็แทบจะรั้งตนเอาไว้ไม่ไหวกำลังยกยิ้ม
"ขยับเองเลยครับ
เสี่ยวฮ่าวฮ่าว"
"ไม่เอาชื่อชื่อเสี่ยวฮ่าวฮ่าว"
ยังคงมีกะใจจะต่อล้อต่อเถียงทั้งที่กำลังรูดรั้งส่วนนั้นของอีกฝ่าย
ยกตัวขึ้นเล็กน้อย
วางมือข้างหนึ่งลงบนบ่าของร่างสูงก่อนจะใช้มืออีกข้างส่งแกนกายเข้าไปในช่องทางสีหวาน
จะว่าเป็นคนใจร้อนก็ไม่ใช่
แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยบอกให้ผู้ที่อยู่บนตักตนขยับอย่างช้า ๆ เจ้าตัวกลับทิ้งตัวลงมาอย่างแรง
ดวงตากลมโตหรี่ปรือฉ่ำรื้นด้วยน้ำตาจากความต้องการ ริมฝีปากสีสดถูกกัดเม้ม
อย่างกับว่าจงใจจะยั่วยวนกัน
ร้าย...
"อือ
เข้ามาจนหมดแล้ว แน่นไปหมดเลย" กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทั้งใบหน้าเห่อร้อน
แต่ก็คงไม่ใช่เวลามาเหนียมอาย
เพราะต่างฝ่ายเองก็เห็นร่างกายของกันและกันมาหลายครั้งแล้ว
แต่ในครั้งนี้เห็นทีจะแปลกเสียหน่อย ชุดที่เคยเห็นในประเทศบ้านเกิดตามงานเทศกาล
ไม่คิดเลยว่าพอมาอยู่บนตัวของหมิงฮ่าวแล้วดูดีได้ถึงเพียงนี้
กี่เพ้าเป็นชุดรัดรูปที่แสดงสรีระของผู้สวมใส่
ผอมบาง มีเอวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มากไปจนผิดรูปร่างของเด็กผู้ชาย อันที่จริง
ถ้าเด็กน้อยของเขากินให้มากกว่านี้ก็คงจะดี แต่ขนาดกินข้าวแค่นั้น ผอมเท่านี้
แรงที่ขยับกายจากที่เชื่องช้าจนกระทั่งเร็วรัวยังไม่มีตกเลย
อืม แต่ถ้าอ้วนขึ้นกว่านี้หน่อยก็น่าจะบีบขยำได้มันมือกว่านี้...
แต่ก็
เอาเถอะ นาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ
เตียงซึ่งเหลือบมองไปเห็นยังคงบอกว่ามีเวลาอีกมากมายกว่าเมมเบอร์คนอื่น ๆ จะกลับมา
ดังนั้น ภายในสาม สี่ชั่วโมงนี้ควรจะไปทำอะไรที่น่าสนใจกว่านี้ดูบ้างดีกว่าไหมนะ
"อ๊ะ
! " ร่างโปร่งร้องเสียงหลงเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกกอดประคองเอาไว้ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเอี้ยวตัวลุกขึ้นยืน
ทั้งทีที่จวิ้นฮุยยืนขึ้นเต็มความสูง
เรียวขาของเด็กน้อยก็ตวัดกอดเข้ารอบเอวของเขาทันที
"จะ
อือ.. พาไป... ไหน" มีคำถาม ทว่ากลับไม่มีคำตอบ
เห็นทีจะมีก็แค่การจับเอวของหมิงฮ่าวเอาไว้
ยกตัวเด็กหนุ่มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะดึงเข้าหาตัวพร้อมทั้งกลั่นแกล้งด้วยการกระแทกกายรับแรงกดนั้นจนฝ่ายรับสัมผัสร้อนแรงครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา
"ฮะ..
อ๊ะ!
ล- ลึกเกินไป อ๊า ! แล้วนะ"
ปล่อยให้จอมดื้อของเขาพูดไปอยู่ฝ่ายเดียวจนกระทั่งมาถึงภายในตัวของห้องน้ำ
วางคนตัวบางลงบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า ถอนกายออกพลางจับตัวคนตรงหน้าให้ลงยืนบนพื้น
หันหลังและเท้ามือลงบนอ่างเพื่อยันกายเอาไว้ กระนั้น มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรยามที่ร่างสูงแทรกกายเข้ามาในตัวอีกครั้ง
เรียวขาทั้งสองข้างอ่อนปวกเปียกไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย...
กระจกบานน้อยแสดงให้เห็นสีหน้าของเด็กหนุ่มที่ดูมีเสน่ห์ยั่วเย้า
กระดุมเสื้อชุดกี่เพ้าถูกแกะออกทีละเม็ด มือข้างหนึ่งที่ไม่ได้โอบรั้งเอวบางเอาไว้
ดึงคอเสื้อให้เปิดออกกว้างเพื่อความสะดวกต่อการฝากฝังรอยจูบเอาไว้บนลำคอ ทั้งยังเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้นเสียจนร่างบางแทบทรุดลงไปกองกับพื้น
ริมฝีปากของทั้งคู่บดเบียดเข้าหากันอีกครั้ง
จูบอันแสนหวานถูกมอบให้แก่กันอีกครั้ง ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
จนกระทั่งอารมณ์ถูกดันพาไปจนถึงที่สุด เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ดังก้องไปทั้งห้องสี่เหลี่ยมเล็ก
ๆ
นาฬิกาเรือนเล็กที่ตั้งเอาไว้ตรงขอบอ่างล้างมือเพื่อเอาไว้ดูเวลายามแปรงฟันในวันรับงานเช้าตรู่
เวลายังเหลืออีกตั้งมากมาย...
แล้วจะต้องกลัวอะไรกัน... ช่วงนี้ก็ไม่ได้รับงานอะไรมากมาย พรุ่งนี้ตื่นมาก็คงออกสเต็ปเต้นไหวอยู่
"แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วหรอเรา"
เอ่ยกระซิบข้างหูเป็นประโยคคำถาม น้ำเสียงที่ใช้ฟังดูกวนประสาทอยู่ไม่ใช่น้อย
แต่ในตอนนี้หมิงฮ่าวไม่มีแรงจะเถียงอะไรกับจวิ้นฮุย
"ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมง...
เล่นเปายิงฉุบกันต่อเลยไหม"
คำพูดที่ใช้กวนอีกฝ่ายถูกอีกฝ่ายนั่นล่ะนำกลับมาใช้กวนตัวเอง
ร่างโปร่งได้แต่มองค้อนผู้ที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังซึ่งยังไม่ได้ถอนกายออกจากตัวของเขา
ซ้ำยังเริ่มขยับอีกครั้ง หยาดน้ำขาวขุ่นในช่องทางส่งเสียงฟังดูเฉอะแฉะยามเมื่อร่างสูงเริ่มขยับกายเร็วขึ้นอีกครั้ง
ก็แล้วยังไง...
เขาจะทำอะไรได้...
"อีก...
อ๊า !
ฮะ... แค่รอบ อื้อ ! รอบเดียวนะ..."
นอกจากส่งเสียงครางหวานไปเรื่อย
ๆ
อืม
หวังว่าจะมีไม่มีใครกลับมาก่อนเวลานะ...
อย่าลืมกลับไปเม้นท์นะฮับ http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1480532&chapter=26
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น