CRIME #09 - Chain - CUT


CRIME #09


- Chain -






                ริมฝีปากทั้งสองประกบกัน บดเบียดเข้าหาจนแดงช้ำ ดูดดึงจนเกิดเสียงจุ๊บฟังดูน่าเขินอาย กระนั้น ในตอนนี้ความพิศวาสและต้องการกำลังอยู่เหนือความรู้สึกใดอื่น


                ประตูห้องถูกล็อกลงกลอนแน่นหนา ยามดึกสงัดไร้ผู้คน ไม่มีแม้กระทั่งเสียงจากเรไรด้านนอก ร่างโปร่งทอดตัวนอนอยู่บนเตียงนุ่ม แผ่นหลังสัมผัสกับผ้าปูสีเทาเข้มระหว่างที่ผู้ซึ่งคร่อมกายอยู่ด้านบนกำลังกดจูบไล่ลงมาตั้งแต่ซอกคอขาวจนถึงไหล่เนียน เสื้อยืดตัวบางถูกถอดออกไปโดยเจ้าของเสื้อเอง และในตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังก่อการอุกอาจโดยการเอื้อมมือไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างสูงและดึงกระชากมันออกจากตัวอีกฝ่ายก่อนจะลากมือลงไปที่ส่วนกลางลำตัว


                "มือน่ะ ซนจังเลยนะ" จวิ้นฮุยกระซิบข้างหูของเด็กหนุ่มพลางหยอกล้อด้วยการขบกัดเบา ๆ เสียงครางแผ่วที่ดังขึ้นทำให้เขาตัดสินใจกระชากกางเกงทั้งชั้นนอกและชั้นในของคนอายุน้อยกว่าออก โยนมันลงพื้นข้างเตียงเช่นเดียวกับเสื้ออย่างไม่ใยดีก่อนจะเริ่มจัดการกับส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่าย


                "อื้อ... จวิ้นเกอก็เหมือนกัน อ๊ะ.. นั่นแหละ" ประโยคคำพูดดูกระท่อนกระแท่นเล็กน้อยจากการขยับมือเป็นจังหวะของร่างสูง รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้ากับปลายนิ้วที่ถูกฟันคมกัดสะกัดกั้นเสียงครวญ การกระทำทั้งหมดของเด็กหนุ่มในตอนนี้ทำให้คนอายุมากกว่ารู้สึกหมั่นไส้ไปพร้อม ๆ กันกับรู้สึกรักเอ็นดู


                กายบางถูกจับพลิกให้คว่ำหน้าลง ขยับตัวแนบกายลงกับอีกฝ่าย กดจูบลงบนหลังคอไล่ลงมาตามแนวสันหลังพร้อมทั้งขยับมือให้เร็วขึ้นจนคนตัวเล็กแอ่นกาย แผ่นอกแทบแนบลงกับเตียงในขณะที่สะโพกยกลอยมากขึ้น เสียงร้องเสนาะหูถูกเปล่งออกมาถี่ขึ้นและดังขึ้นจนกระทั่งอารมณ์ถูกดันพาไปจนถึงที่สุด


                ผู้ที่แนบกายอยู่ด้านหลังยื่นปลายนิ้วอันเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำสีขุ่นไปแตะที่ริมฝีปากของเด็กน้อย ร่างโปร่งโลมเลียปลายจนถึงโคนนิ้วอย่างรู้งานแต่แล้วกลับมีเหตุต้องผละออกห่างและฟุบหน้าลงกับหมอนนุ่ม มือสองข้างจิกขยุ้มลงบนผ้าปูที่นอนด้วยเพราะความรู้สึกวาบหวามจากทางด้านหลัง


                ฝ่ามือของผู้คุมเกมบีบเค้นเนื้อสะโพกนิ่มพลางแตะปลายลิ้นลงบนจีบเนื้อนุ่ม ปล่อยให้หมิงฮ่าวตายใจกับสัมผัสอ่อนโยนนั้นไปชั่วครู่ก่อนจะกลั่นแกล้งด้วยการสอดนิ้วเข้าไปสัมผัสกับช่องทางพร้อมกันทีเดียวถึงสามนิ้ว


                "อ๊า !! " เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง ใบหน้าได้เรียวเล็กเชิดเงยขึ้นพร้อมทั้งเม้มปากแน่น ยิ่งมองก็ยิ่งน่าแกล้ง...


                นิ้วเรียวยาวหมุนควงอยู่ภายในก่อนจะงอสัมผัสกดลงกับผนังอ่อนนุ่มเรียกการสั่นกระตุกของกายบางเป็นพัก ๆ จากนั้นจึงค่อยดันเข้าไปลึกมากขึ้นและจงใจกดลงบนจุดไวต่อความรู้สึก


                "อ๊ะ ! อือ ! อย่า.. อ๊า อย่าแกล้งกันสิ" ส่งเสียงออกมา ปลายนิ้วจิกเกร็ง ทันทีที่ถูกกดย้ำซ้ำ ๆ จนความร้อนและความอยากในกายลุกโชนแทบจะไหม้


                "จะสั่งสอนเด็กดื้อก็ต้องอบรมอย่างจริงจังสิครับ" เสียงหัวเราะดังขึ้นที่ข้างหูอีกครั้ง พวงแก้มถูกกดสูดดมกลิ่นแป้งหอมโดยจมูกโด่งของอีกฝ่าย เสียงเข็มขัดและเสียงรูดซิปของกางเกงเป็นดั่งสัญญาณ หมิงฮ่าวหลับตาลง กัดริมฝีปากของตนไว้แน่นเพื่อสกัดกลั้นเสียงร้อง กระนั้น มันไร้ผล...


                "อ๊า ! อื้อ !! อ.. อ๊ะ ! " ทั้งเสียงหอบและเสียงครางดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันประสานไปกับเสียงของผิวเนื้อที่กระทบกัน ไม่มีการหยุดค้างเพื่อให้ปรับตัว ไม่มีการประนีประนอมด้วยการค่อย ๆ ดันแก่นกายเข้าหา ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง


                แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่คนทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง หากย้อนกลับไปพูดถึงครั้งแรก ครั้งแรกที่ควรมอบความรักให้แก่กันอย่างละมุนละไมไม่เคยเกิดขึ้นกับจวิ้นฮุยที่ในวันนั้นกำลังอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดและหมิงฮ่าวที่อยู่ในอารมณ์ดื้อดึงดัน


                อีกอย่าง... เด็กหนุ่มก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกลียดมันสักนิด...


                โพรงนุ่มบีบรัดแก่นกายของอีกฝ่ายจนชายหนุ่มซี้ดปากด้วยความรู้สึกเสียวซ่านไม่ต่างกับฝ่ายที่กำลังตอบรับแรงกระแทกของเขา เสียงหอบเริ่มดังขึ้นสลับกับเสียงครางหวาน ร่างสูงตัดสินใจถอนกายออกมาก่อนจะจับตัวของหมิงฮ่าวพลิกให้แผ่นหลังเนียนแนบกับเตียงอีกครั้ง


                ดวงหน้าออกจะติดหวานหน่อยเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ นัยน์ตาคู่สวยฉายแววต้องการเอาชนะหากก็ฉ่ำหวานพร้อมทั้งมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ ริมฝีปากสีสดแลดูยั่วยวนอ้าออกพร้อมทั้งเปล่งเสียงออกมาอีกครั้งเมื่อช่องทางสีหวานถูกสอดใส่อย่างแรงอีกครั้ง


                "อือ ฮะ.. แรง อือ จวิ้นเก้อช้าอ่ะ อ๊ะ อะ อ๊า !! " ครวญครางออกมาไม่เป็นภาษาพลางส่ายหน้าไปมาจนเรือนผมสีน้ำตาลเข้มกระจายเต็มหมอน มือหนาจัดให้ขาเรียวทั้งคู่แยกออกพลางโถมกายเข้าใส่เพื่อเป็นการเอาคืนเด็กปากเก่งจนแอ่นกายแผ่นหลังแทบไม่ติดเตียง


                "อ๊า ! อ๊ะ ฮะ แฮ่ก ! " กรีดร้องออกมาพร้อมทั้งหอบหายใจออกมาไม่เป็นจังหวะ ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากันอีกครั้งเรียวลิ้นอุ่นไล้เลียริมฝีปากของกันและกันก่อนจะเกี่ยวกระหวัดแลกเปลี่ยนความหวานทางความรู้สึกจนพอใจแล้วจึงผละออกมา ฉับพลันนัยน์ตากลมโตกลับต้องเบิกกว้างพร้อมทั้งอ้าปากร้องออกมาเสียงกว่าเก่า


                "อ๊า ! อ๊ะ ๆ ๆ อื้อ ! แฮ่ก ! อือ ! " กรีดร้องออกมาไม่เป้นจังหวะและไม่เป็นภาษา หยาดน้ำตาที่เอ่อไหลอาบคลอข้างแก้ม เรียวขาที่กำลังถูกกดจูบเม้มสร้างรอยตีตราเอาไว้แยกออกกว้างกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว สวนสะโพกตอบไปด้วยแรงที่ตอบสนองโดยอัตโนมัติตามความรู้สึกข้างในสั่ง สติเริ่มเลือนรางไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น


                หูได้ยินเพียงเสียงกระซิบของพร่ำบอกรักซ้ำ ๆ และเขาเองก็ตอบกลับไปได้เช่นกัน ดวงตาตอนนี้พร่าเบลอหากยังเห็นใบหน้าหล่อเหลาของจวิ้นฮุยได้ชัดเจน บางที คงเป็นเพราะหมิงฮ่าวเริ่มจดจำใบหน้าของสามีตัวเองในยามที่เรือนผมเปียกชุ่มเหงื่อลู่แนบกับใบหน้า นัยน์ตาคมฉายแววดุดันปนเจ้าเล่ห์ได้แล้วล่ะมั้ง


                "ได้เกอแล้ว อย่าทิ้งเกอนะครับ... เสี่ยวปา"


                "อ่ะ จวิ้นเกอนั่น อ๊ะ ! นั่นแหละ อือ ! อย่าทิ้ง แฮ่ก เสี่ยวปานะ" คำพูดถูกยอกย้อนโดยเด็กปากเก่ง ร่างสูงรวบข้อมือของเด็กหนุ่มและตรึงเอาไว้เหนือศีรษะก่อนจะโถมตัวเข้าใส่อีกครั้งด้วยแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นมาก มากเสียจนในที่สุดร่างโปร่งก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ช่องทางอ่อนนุ่มกระตุกตอดรัดแก่นกายของอีกฝ่ายถี่ ๆ ตามจังหวะการหอบหายใจหลังจากที่เสียงกรีดร้องเงียบลง


                ชายหนุ่มยังคงไม่ขยับกายเคลื่อนออกจากภายในโพรงอุ่นของคนตัวบาง กดจูบลงบนริมฝีปากเห่อช้ำนั้นอีกครั้ง มอบจุมพิตละมุนละไมให้ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เรียกสติของจอมท้าทายที่เพิ่งพ่ายแพ้ศึกบนเตียงมาหมาด ๆ



                "เด็กดื้ออย่างเสี่ยวปา อบรมรอบเดียวไม่พอหรอกครับ..."







อย่าลืมกลับไปเม้นท์ด้วยนะคะ T v T ได้โปรดเมตตาและเป็นกำลังใจให้มนุษย์เจ็บหลังผู้นี้ด้วยเถิด




ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม